การออกแบบบ้านให้ลดการใช้พลังงาน

[deam205]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงอาทิตย์ โดยที่จะจำเป็นต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มใบในความเร็วที่เหมาะสม เพื่อลดอุที่ภูมิด้านนอกใกล้รอบๆบ้านรวมทั้ง ปกป้องลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกและก็ ทิศตะวันตก



2. ควรเลือกประเภทต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามท้องถิ่นได้แก่ ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา ฯลฯ เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา เนื่องด้วยต้นไม้กลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับสภาพตำแหน่งที่ตั้ง รวมทั้งลักษณะอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมรอบๆบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน ทำน้ำตกเลียนแบบ ฯลฯ

4. กลบดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นรวมทั้งฝาผนังเล็กน้อยต่ำลงมากยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ และก็ปลูกไม้พุ่มรอบๆผนังบ้าน



5. ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด บางทีก็อาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน แล้วก็ลดความแรงของแสงแดดที่ ส่องผิวตึก



6. ทำรางน้ำและท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆข้างในบ้านให้ สมควร เพื่อคุ้มครองความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรืออาจจะทำท่อระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางในการซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าอยากได้ทำที่หยุดรถยนต์ ควรทำที่หยุดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและก็ฝาผนัง โดยความหนาของฉนวนที่ใช้จะต้อง ขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่ทำความเย็น แม้กระนั้นส่วนมากใช้ฉนวนที่มีความหนาราวๆ 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ฉนวนสำหรับหลังคาและผนังมีหลายประเภท เช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีผนังข้างนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันรวมทั้งกันความชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนได้ดี

10. สำหรับฝาผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานกลับที่สามารถควบคุมจำนวนลมได้ดีกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นจะต้องเพียงแค่นั้น โดยให้พอเพียงสำหรับเพื่อการรับแสงไฟจากธรรมชาติ และก็ควรจะหลบหลีกการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกและก็ตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวนอนเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือและก็ทิศใต้ เนื่องจากสามารถบังแดดในช่วงเที่ยงและตอน บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านบังตารอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มครองปกป้องความร้อนจากแสง อาทิตย์เข้าภายในตัวบ้าน ส่วนการต่อว่าดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะปกป้อง ความร้อนจากแสงแดดได้ดียิ่งไปกว่า แต่ว่าค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมากยิ่งกว่าก็เลยไม่ค่อยได้รับความนิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ บริเวณที่จอดรถหรือระเบียง ต้องมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองปกป้องการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. จัดตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ด้านนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งทานอาหารว่างหรือใช้ประกอบอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. อุดรอยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งโคมไฟ ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดเตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ เป็นต้น เพื่อคุ้มครองความ ร้อนจากข้างนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. ทิศเหนืออยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อป้องกันความ ร้อนและความชื้นจากข้างนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้รวมทั้งชั้นสำหรับวางสิ่งของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่ขวางการระบาย อากาศ และไม่บังแสงสว่าง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้หันไปในผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลชำระล้าง ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกแฉะ เพื่อลดภาระทำความเย็นเนื่องจากความร้อนซ่อนเร้น



22. แบ่งห้องใช้สอยโดยนึกถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ รุ่งอรุณอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยแทบตลอดทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เพราะจะเย็นสบายที่สุด เป็นต้นว่า ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจะจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ และจำเป็นต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าแล้วก็ออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านทิศ เหนือของบ้านเป็นด้านที่สมควรที่จะจัดตั้งคอนเดนเซอร์เยอะที่สุด แม้กระนั้นถ้าเกิดไม่ สามารถจัดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสะดวก รวมทั้งใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาข้างในห้อง



25. ควรจัดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ด้านในห้องปรับอากาศ ให้สมควร คือ ไม่สมควรโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะจะทำให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าบกพร่อง รวมทั้งควรจัดตั้งในบริเวณที่มีความสามารถในการอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายแล้วก็ และสบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยาก

26. ควรจะติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศและเปิดโล่งเตียน อย่างเช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและก็ลดความชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ แต่ว่าหากจำต้องติดตั้งในห้องปิด ควรจำเป็นต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้เพื่อระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองป้องกันการสั่งสมความร้อนและก็ความชื้นข้างในห้อง



27. ใคร่ครวญทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แม้กระนั้นหากหลบหลีกมิได้ครัวที่อยู่ ข้างในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี เนื่องจากห้องครัวมักประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภท ตัวอย่างเช่น เตาอบ เตาหุง กาที่มีไว้ต้มน้ำร้อน ตู้แช่เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. ติดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำงานหุงหาอาหารรวมทั้งอากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากภายนอกบ้านไม่ควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องมือและก็เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูง นอกเหนือจากการที่จะประหยัด พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย อย่างเช่น ใช้ตู้แช่เย็นสมรรถนะสูง ใช้หลอดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ฯลฯ

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Panitsupa]

ดันๆ

[Naprapats]

ดันๆ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Cindy700]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Ailie662]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 ดันกระทู้

[Jenny937]

ดันๆ

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[kaidee20]

 ดันกระทู้

[Hanako5]

ดันๆ

[fairya]

 ดันกระทู้

[kaidee20]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ