• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

✅การเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring) 🦖และ🥇 การเจาะสำรวจดินในงานก่อสร้าง🥇

Started by Naprapats, July 26, 2024, 04:15:09 PM

Previous topic - Next topic

Naprapats

การสำรวจดิน ✅คือกรรมวิธีการเจาะดิน, การเก็บตัวอย่าง, การทดสอบดินในสนาม, หยั่งชั้นดินจากผิวดิน ✅หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางแนวดิ่งของชั้นดิน และลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ 🦖หรือการศึกษาเชิงปฐพีกลศาสตร์ การเจาะสำรวจดินต้องพิจารณาการใช้งาน เช่น งานถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะกระทำเพียงตื้น ๆ แต่งานฐานรากลึกต้องเจาะลึกกว่าปลายเข็มที่ใช้ 🦖สำหรับในบทนี้จะพูดถึงวิธีการเจาะสำรวจดินขั้นพื้นฐาน โดยใช้ สว่านมือ, การเจาะล้าง (Wash Boring) 🎯และการเก็บตัวอย่างดินโดยใช้กระบอกเปลือกบาง (Thin Walled Tube)🌏

🛒🛒🛒เหตุผลในการเจาะสำรวจดินก่อนก่อสร้าง📢📢📢

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง ⚡และรู้ลักษณะเชิงกลของดิน เราจะได้เลือกใช้ฐานรากได้ถูกประเภท ⚡เช่น หากดินแข็งพอสมควรอาจใช้ฐานแผ่✨

2. เพื่อให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง) ว่าลึกเท่าไร 📌ช่วยในการคำนวณกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม🌏 และเลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม🦖

3. เพื่อลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม 🦖เพราะหากพบชั้นดินแข็งแต่ไม่หนาและลึกไม่มาก ✅อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว 📢ทั้งที่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้อีก 🎯หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก วิศวกรควรสั่งเจาะสำรวจดินหลายหลุม เพื่อเปรียบเทียบ ✨เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิด สำหรับก่อสร้างอาคารนั้น✨



👉👉👉การสำรวจดิน (Soil Exploration)📌📌📌

การเจาะดิน📌คือการเจาะหลุมลงไปในดินเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน📌และเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ🥇โดยทั่วไปวิธีการสำรวจดินที่นิยมในประเทศไทย 📢ได้แก่

1. การเจาะโดยใช้สว่านมือ (Hand Auger) 🥇เป็นการเจาะด้วยแรงคน โดยใช้สว่านมือและแท่งเจาะดังรูปด้านล่าง 📢โดยที่ก้านเจาะซึ่งยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อให้ยาวหลาย ๆ ท่อนได้ เมื่อกดพร้อม ๆ กับหมุนก้านจนดินเข้ามาเต็มสว่านแล้วจึงดึงขึ้นเพื่อนำดินออก 🦖ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติทางวิศวกรรมบางประเภทได้ 🦖การเจาะด้วยสว่านมือสามารถทำได้ลึกถึง 6-10 เมตรในดินเหนียวแข็งปานกลาง 📌ข้อเสียของวิธีการเจาะนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อทดสอบความแข็งแรงหรือการทรุดตัวได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน✅

2. การเจาะโดยใช้การฉีดล้าง (Wash Boring) 📌คือการใช้การฉีดน้ำด้วยแรงดันสูงเพื่อให้เกิดหลุม และเกิดการรบกวนดินด้านล่างน้อยที่สุด ✅วิธีการเจาะเริ่มโดยการเจาะชั้นดินโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะลงไปที่หัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อม ๆ กับกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ 👉ทำให้ดินที่ก้นหลุมถูกฉีดและไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอน จากนั้นสูบน้ำที่ใสนำกลับมาใช้ใหม่ 🌏ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยโครงสามขา เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) 🌏และเครื่องสูบน้ำ ในกรณีที่เจาะดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Casing)ด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ 🥇และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุม จึงต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) กับน้ำ 📌เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด มอนต์มอริลโลไนต์ มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก 📌ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย🛒 น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะประเภทนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้เป็นระยะ ๆ ตามกำหนด 🥇การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ สำหรับการก่อสร้างอาคารจะอยู่ที่ความลึก 30-80 เมตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร🦖