พิมพ์นามบัตร
การพิมพ์นามบัตรนั้นแต่เดิมถูกใช้ในการแนะนำตัวของตนให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกข้างสามารถจำตัวเองได้ดีขึ้น รวมทั้งทำให้อีกข้างทราบโปรไฟล์ของพวกเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ในการพิมพ์นามบัตรแจกนั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากในอดีตในสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ
เนื่องจากว่าถ้าอยากเขียนเบอร์โทรศัพท์ต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วจะต้องถามไถ่รายละเอียดที่ได้รับมาจากบุคคลนั้น ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่
สบายและถ่วงเวลาอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ามีการสัมมนาหรือพบปะสนทนาผู้อื่นด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรจึงนับเป็น
สิ่งที่ต้องการอย่างเสียมิได้
ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะมีเครื่องใช้ไม้สอยที่ช่วยในการเสนอแนะตนเองแล้วก็โปรไฟล์ได้มากมายหลายวิธี แต่ว่าแม้ว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงเป็น "Name Card" แต่เปลี่ยนเป็น "Business Card" ซึ่งมีความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับในการติดต่อธุรกิจกับผู้อื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งที่มีความต้องการมากมายในขณะนี้ โดยเฉพาะค่านิยมของญี่ปุ่นนั้นจัดว่าให้พกนามบัตรประจำตัวตลอดเวลาแล้วก็ให้ความเอาใจใส่มากมาย
กว่ากระเป๋าสตางค์อีกด้วย เนื่องจากว่าถ้ามีการเผชิญบุคคลภายนอกจนกระทั่งมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรจัดว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น ด้วยเหตุนี้การพิมพ์นามบัตรจึงมีความสำคัญอย่างที่สุดไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงธุรกิจแต่ว่ารวมทั้งบุคคลทั่วไปด้วย รูปแบบของนามบัตรนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามเป้าประสงค์การใช้แรงงาน ตัวอย่างเช่น ใช้เสนอแนะเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ ฯลฯ โดยเนื้อหาข้อมูลในการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างออกไป โดยปกติข้อมูลฐานรากที่ควรมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนหมายถึง1.ชื่อ – ชื่อสกุลของผู้ครอบครองบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือหนทางติดต่อโดยจะเป็นวิธีใดก็ได้ประการใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายอย่างก็ได้ตามแต่สะดวก ซึ่งในปัจจุบันนอกจากระบุเบอร์โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ บางทีก็อาจจะเพิ่มเติมที่อยู่อีเมล
facebook LineID เพิ่มเติมฯลฯ แต่ถ้าเป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ต้องมีเพิ่มเติมในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมถึงการใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์อาจจะต้องเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
เชื่อถือเป็นต้น
งานพิมพ์นามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งพอประมาณ ไม่ควรบางหรืออ่อนตัวจนกระทั่งเหลือเกิน ซึ่ง
ขนาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแตกต่างกันออกไปบ้างนิดหน่อยแต่ไม่สมควรต่างจากขนาดมาตรฐานมากนัก นั่นเป็น 3.5 x 2.125 นิ้ว เพราะเหตุว่าขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่เข้ากับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ควรมีความครึ้ม
260 มึงรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยปัจจุบันนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะชอบเจาะจงเนื้อหาเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งและก็ภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งนับว่าเหมาะสมสำหรับการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคนต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้งดงามนั้นมีความสำคัญอย่างมากเพราะเหตุว่าช่วยเพิ่มความน่านับถือสำหรับการทำธุรกิจ สำหรับ
ผู้ที่ไม่รู้จักท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวถ้าเกิดได้มองเห็นนามบัตรที่มองสง่าก็จะทำให้เชื่อถือว่าบริษัทท่านจำต้องมองน่าไว้ใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มอีกในกับนามบัตรก็เลยเป็นที่ชื่นชอบกันอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น การเคลือบ UV ฉาบเงา ฉาบด้าน ฉาบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทองคำ รวมทั้งฯลฯขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง