ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => อื่นๆ ที่ไม่ตรงหมวดข้างบน => Topic started by: Ailie662 on July 12, 2023, 10:52:47 PM

Title: ส่องหุ้นต่ำบุ๊ค
Post by: Ailie662 on July 12, 2023, 10:52:47 PM
จากการสำรวจหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี SET50 ที่มี P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า หรือต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี พบว่ามีทั้งหมด 13 หุ้น โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง และส่วนใหญ่เป็นอยู่ในกลุ่มที่เป็นหุ้นคุณค่า (Value stock) ที่ผลการดำเนินงานเป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจนักลงทุน (https://healthstorycollaborative.com/online-lottery-results-how-you-can-increase-your-own-winning-probabilities/)ที่นิยมนำอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (Price to Book Value : P/BV Ratio) วิเคราะห์ว่าหุ้น "ถูกหรือแพง" เป็นการคำนวณจากราคาตลาดของหุ้น หารด้วยมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (ส่วนของเจ้าของ) ถือเป็นการบอกให้รู้ว่าราคาหุ้น ณ ขณะนั้น สูงเป็นกี่เท่าของมูลค่าตามบัญชีของหุ้นตัวนั้น หากยิ่งซื้อหุ้นได้ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีมากเท่าไหร่ยิ่งดี (P/BV Ratio ต่ำ)  หุ้น          P/BV (เท่า)   มูลค่าหุ้นทางบัญชี         ราคาหุ้น            ราคาเป้าหมาย
                             (บาท/หุ้น)          (บาท/หุ้น)            (บาท/หุ้น)
  BANPU       0.60            14.79              8.80               9.27
  BBL         0.59           269.91            158.00             186.53
  CPF         0.65            30.04             19.60              23.63
  EGCO        0.56           229.19            128.50             205.43
  KBANK       0.60           216.27            131.50             162.50
  KTB         0.70            27.87             19.50              21.70
  PTT         0.90            37.67             34.00              38.82
  PTTGC       0.60            64.53             39.00              47.73
  RATCH       0.79            44.63             35.25              47.50
  SCB         0.78           139.99            109.50             134.62
  TOP         0.63            71.69             45.25              62.50
  TTB         0.66             2.32              1.54               1.64
  TU          0.71            18.08             12.90              16.75นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า การเลือกหุ้นโดยใช้ P/BV เป็นเครื่องมือในการเลือกหุ้นที่จะลงทุน ทำให้นักลงทุนรู้ว่าซื้อของถูกแพงกว่าเจ้าของ และเป็นการดูที่สามารถช่วยวิเคราะห์หาจุดในการซื้อหุ้นได้ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งการเลือกหุ้นขนาดใหญ่ที่มี P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า ถือว่าเป็นโอกาสในการลงทุนในระยะกลางยาวได้ เช่น หุ้น PTT ที่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ราคาหุ้นปรับลดลงมา ทำให้ P/BV ปรับลดลงมาต่ำกว่า 1 เท่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่ยังมีปัจจัยผันผวนอื่นๆ ที่ยังมากระทบต่อผลการดำเนินงาน รวมถึงการเป็นธุรกิจที่ยังมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ทำให้ราคาหุ้นยังไม่ตอบรับ ทำให้ P/BV ปรับขึ้นไปที่ 1 เท่าได้ แต่ยังถือเป็นหุ้นที่นักลงทุนสามารถทยอยสะสมในระยะกลางยาวได้ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีค่า P/BV ต่ำกว่า 1 เท่าหลายธนาคาร จากปัจจัยของเศรษฐกิจไทยที่เติบโตไม่มาก ประกอบกับธนาคารพาณิชย์ยังเป็นธุรกิจดั้งเดิมที่อาจจะถูกเทคโนโลยีการเงินเข้ามา Disrupt ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับหลังจากที่เกิดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ถูกแรงกดดัน แต่ในปีนี้ถือว่ายังเป็นโอกาสที่เริ่มเห็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์กลับมามีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสูงขึ้น และหนุนต่อกำไรของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยังดีต่อเนื่อง และยังเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูง 4-5% ต่อปี ทำให้เป็นหนึ่งในหุ้นที่มี P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า ที่นักลงทุนสามารถหาจังหวะทยอยสะสมได้นักวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า การสะสมลงทุนระยะกลางยาว หุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าบุ๊ค และยิ่งมี P/E ไม่สูง ถือว่าเป็นหุ้นที่มีความผันผวนค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับการทยอยสะสมเพื่อการลงทุนระยะกลางยาว โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นธุรกิจที่มีพื้ฐานดี มีผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างสม่ำเสมอ และยังคงมีการจ่ายเงินปันผลดีต่อเนื่อง ยังมีความน่าสนใจในการลงทุนสะสม ประกอบกับในช่วงที่รอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ หรือความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก หุ้นในกลุ่มนี้ถือว่าช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ถือว่าค่อนข้างมีความโดดเด่นในปีนี้ รับปัจจัยหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะยังคงเห็นรายได้จากดอกเบี้ยในไตรมาส 2/66 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66 ทำให้กำไรในครึ่งปีแรกยังมีการเติบโต รวมถึงในคึ่งปีหลังที่ยังมีทิศทางเติบโตต่อด้วยเช่นกัน และยังเป็นหุ้นที่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจะเป็นกลุ่มแรกๆที่มีผลการดำเนินงานฟื้นกลับมาตามภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนจากปันผลที่ดีอย่างสม่ำเสมอ