ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในวันนี้ หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยณ เวลา 18.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.1% สู่ระดับ 101.87 หลังจากดิ่งลงสู่ 101.67 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง 0.65% สู่ระดับ 140.39 เยน และปรับตัวขึ้น 0.15% สู่ระดับ 1.098 เทียบยูโรทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายระบุว่า เฟดจำเป็นจะต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ก็ส่งสัญญาณว่าเฟดใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขณะเดียวกัน นักลงทุน (http://pandalabscreative.co.uk/how-you-would-can-win-a-lottery/)จับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมิ.ย.ในวันพรุ่งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้วทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 4.0% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 0.1% ในเดือนพ.ค.ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 5.0% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.3% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนพ.ค.
SET ปิดวันนี้ที่ 1,496.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด (+0.00%) มูลค่าซื้อขาย 34,188.57 ล้านบาทการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงภาคเช้า ก่อนที่ย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อยในภาคบ่ายและปิดตลาดทรงตัวจากเมื่อวานนี้ โดยทำจุดต่ำสุด 1,505.40 จุด หลังจากแตะจุดสูงสุดที่ 1,492.63 จุดส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 176 หลักทรัพย์ ลดลง 247 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 216 หลักทรัพย์นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียได้ โดยที่มีแรงหนุนจากหุ้น DELTA หลังปลด Cash Balance เข้ามาหนุนดัชนี แต่เริ่มมีการย่อตัวลงมาแกว่งในแดนลบสลับบางช่วงในช่วงบ่าย ซึ่งคาดว่าจะมาจากแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้นมาอย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ ในการโหวตนายกรัฐมนตรีว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งค่อนข้างมีน้ำหนักต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย แม้ว่าปัจจัยในประเทศยังคงไร้ปัจจัยใหม่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนพรุ่งนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ประกอบกับยังคงรอติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมติดตามการทยอยประกาศงบฯไตรมาส 2/66 ของกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มทยอยประกาศออกมา โดยให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,490 จุดส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,805.14 ล้านบาท ปิดที่ 101.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงKBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,372.36 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทPTT มูลค่าการซื้อขาย 1,347.88 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงCPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,238.91 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.25 บาทBBL มูลค่าการซื้อขาย 1,220.37 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท